Dow ตอกย้ำ
Foodwastehub.com แพลตฟอร์มต่อยอดไอเดียการสร้างคุณค่าและใช้ประโยชน์จากขยะอาหาร
ร่วมงานแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจากเฟสแรก
ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหาร เข้าร่วมโครงการหลายราย ช่วยกทม.ลดขยะอาหารต่อเนื่อง
รวมถึงลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า 300 ล้านบาท
กรุงเทพมหานครได้แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
“ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม หลัง “ร้านนี้ไม่เทรวม”
เฟส 1 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน ในช่วงที่ผ่านมา
กรุงเทพมหานครได้เผชิญหน้ากับปริมาณขยะมูลฝอยที่สูงถึงเกือบ 9,000 ตันต่อวัน
โดยในจำนวนนี้ มากกว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์และเศษอาหาร ซึ่งรู้ไหมว่า
สาเหตุที่การจัดการในขยะในปัจจุบันเป็นไปได้ยาก หรือรีไซเคิลได้ยากนั้น
ต้นเหตุมาจากขยะที่เราทิ้งมีการปนเปื้อนเศษอาหาร ไม่สะอาด
ทำให้ขยะเหล่านั้นสูญเปล่า ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้
และสุดท้ายต้องไปจบที่หลุมฝังกลบเหมือนเดิม
ดังนั้น ในปี 2567
กรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำโครงการไม่เทรวม
มุ่งเน้นให้ประชาชนและภาคธุรกิจร่วมกันแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป
ลดการปนเปื้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ
โดยโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สามารถช่วยให้กรุงเทพมหานครลดปริมาณขยะลงได้ต่อเนื่อง
รวมถึงลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า 300 ล้านบาทแล้ว
เพียงแค่ประชาชนอาจไม่เพียงพอ
ธุรกิจร้านค้าก็เป็นอีกแหล่งกำเนิดขยะมหาศาล ทั้งจากกระบวนการประกอบอาหาร
(ขยะหลังครัว) และขยะที่เกิดจากการบริโภค (ขยะหลังกิน) ซึ่งกรุงเทพฯ
มีร้านอาหารจำนวนมาก หากธูรกิจเหล่านี้สามารถแยกขยะตั้งแต่ต้นทางได้อย่างถูกต้อง
ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ
และก็เป็นจุดเริ่มต้นสู่ระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพระยะยาว เพื่ออยากให้ขยะร้านค้าถูกจัดการได้มีประสิทธิภาพขึ้น
กรุงเทพมหานครจึงจัดทำโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม”
เพื่อขยายความร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหาร
โดยจะมีการจัดทำระบบบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 600 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้
สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ Greener
Bangkok ได้
เป็นแหล่งข้อมูลที่ให้ประชาชนสามารถเลือกอุดหนุนร้านอาหารที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม
ในงานแถลงข่าว "ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2" ครั้งนี้ กลุ่มบริษัท ดาว
ประเทศไทย ในฐานะภาคีเครือข่าย ซึ่งมีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับกทม.ในการมุ่งสู่เป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียน
และยังได้ทำงานร่วมกับกทม.ใน โครงการบ้านนี้ไม่เทรวม และ Smart Recycling
Hub ที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการพลาสติกใช้แล้วและวัสดุรีไซเคิลเพื่อป้องกันการเกิดขยะและหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม
ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวพร้อมจัดแสดงนิทรรศการ “FoodWasteHub.com ขยะหลังครัวมีที่ไป ใช้ประโยชน์ได้จริง”
โดยได้นำเสนอ เว็บไซต์ที่รวบรวมงานวิจัยกาารใช้ประโยชน์จากขยะอหาร
โดยความร่วมมือของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
โดยการจัดแสดงนิทรรศการที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแยกขยะอาหารว่า
จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้การจัดการขยะและใช้ประโยชน์จากวัสดุรีไซเคิลในลำดับถัดไปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมนำเสนอ ตัวอย่างการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่า ผลิตภัณฑ์ใหม่
และต่อดยอดธุรกิจโดยนักวิจัยทั่วประเทศ ที่ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานวิจัยแห่งชาติ
พร้อมกิจกรรมเกมส์แจกของรางวัลกับเว็บไซต์ Foodwastehub .com อีกด้วย
นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์
ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร
กล่าวว่า “ร้านอาหารถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการลดปัญหาขยะในเมือง
เพราะร้านอาหารถือเป็นศูนย์กลางการบริโภคของคนเมือง
และก็เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกมหาศาล ปัจจุบัน
กรุงเทพฯมีร้านอาหารจำนวนมาก หากสามารถจัดการขยะโดยการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง
ก็จะช่วยลดขยะที่ต้องกำจัดและช่วยลดค่าใช้จ่ายของกรุงเทพมหานครได้
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองที่สะอาดขึ้นด้วย”
Dow จะยังคงมุ่งมั่นตั้งใจส่งเสริม
สนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ช่วยส่งเสริมด้านการแยก จัดการขยะ
และนำขยะพลาสติกไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป