บรรลุเป้าก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593
บริษัท ดาว (Dow) ประกาศความมุ่งมั่นใหม่ ต่อยอดจากเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 เน้นแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และขยะพลาสติก มุ่งสู่การเป็นบริษัทด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก โดยดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม เอาใจใส่ต่อลูกค้า และให้การยอมรับบุคลากรที่หลากหลาย นอกจากนี้ Dow ยังได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนปี 2562 ซึ่งบริษัทฯ ได้ออกรายงานความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 เพื่อรายงานความก้าวหน้าและผลการดำเนินงานสู่เป้าหมายความยั่งยืน
นายจิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Dow กล่าวว่า “การประกาศเป้าใหม่ในวันนี้เป็นอีกก้าวของเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเราที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่กว่า 30 ปีก่อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะพลาสติกเป็นสองปัญหาใหญ่ที่สุดในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อมที่โลกได้เคยเผชิญมา ซึ่งผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Dow จะมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาทั้งสองเรื่องนี้ Dow มีความรับผิดชอบ และมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในการแก้ไขความท้าทายนี้ได้ ผมเชื่อว่าอนาคตที่ยั่งยืนนั้นเป็นจริงได้ แต่พวกเราต้องลงมือแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องด้วยความรับผิดชอบ และร่วมมือร่วมใจกันหาโซลูชั่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะพลาสติกได้อย่างตรงจุด”
เป้าใหม่ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ การลดขยะของ Dow ที่สอดคล้องและต่อยอดจากเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 มีดังนี้
นอกเหนือจากการดำเนินงานต่าง ๆ ที่ Dow ได้ทำในทั่วโลกเพื่อจะบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนแล้ว Dow ได้ทำสัญญาเรื่องการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานที่อาร์เจนตินา บราซิล รวมทั้ง ที่เท็กซัส และเคนตักกี้ ในสหรัฐอเมริกา โดยจะใช้พลังงานจากทรัพยากรหมุนเวียนทั้งหมด 338 เมกะวัตต์ ประมาณการเทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 225,000 ตัน ซึ่งตรงกับแผนงานที่มีเป้าหมายจะใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่า 750 เมกะวัตภายในปี 2568
ผลิตภัณฑ์ของ Dow จำนวนมากช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตของตัวผลิตภัณฑ์เอง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบาขึ้นและใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ อาคารที่ประหยัดพลังงานมากกขึ้น และอาหารที่ปลอดภัยและคงความสดใหม่ได้นานขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับโลกที่คาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นอีก 2 พันล้านคนภายในปี 2593
วันนี้ Dow ได้นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิลสำหรับงานแพคเกจจิ้งที่ได้มาจากกระบวนการรีไซเคิลเชิงกล หรือ Mechanical Recycling (การนำขยะพลาสติกมาบดและหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล) ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและการใช้พลังงานได้ถึง 20-30%
เป้าหมายเรื่องขยะพลาสติกของ Dow คือต้องแน่ใจว่าการลงทุนและความร่วมมือต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการลงทุนใน Alliance to End Plastic Waste และ Circulate Capital นั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะหยุดขยะพลาสติกไม่ให้ไปสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมนำธุรกิจของ Dow ไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน
“การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการหยุดขยะพลาสติกเป็นเรื่องท้าทายที่มีความเชื่อมโยงกัน ในฐานะที่ Dow เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (Low carbon economy) เราจึงคิดค้นและลงทุนในกระบวนการผลิตแบบใหม่ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งมองขยะเป็นทรัพยากรที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้” แมรี่ เดรฟส์ รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน กล่าว
Dow จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ องค์กรไม่แสวงหากำไร ผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบ พันธมิตรด้านเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมทั้ง เทคโนโลยีที่ปลดปล่อยคาร์บอนในระดับต่ำ เพื่อในที่สุดแล้วจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับการลดก๊าซเรือนกระจกดังที่กล่าวมาได้ Dow ตั้งใจจะเปิดเผยข้อมูลด้านความร่วมมือเพิ่มเติมในปลายปีนี้
จากเนื้อหาของรายงานความยั่งยืนปี 2562 ของ Dow ที่เผยแพร่ในวันนี้ เราได้มีความคืบหน้าในการดำเนินงานเพื่อไปถึงเป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 ตัวอย่างเช่น ตั้งแต่ปี 2549 Dow ได้
• ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้ว 15%
• รวมราคาคาร์บอนเครดิตเข้าไปอยู่ในแผนธุรกิจ
• ลงทุนในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน – Dow เป็นบริษัทที่ใช้พลังงานสะอาดมากเป็นเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมเคมี และติด 1 ในท็อป 25 ของบริษัททั่วโลกในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน
ดูรายงานด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท Dow ระดับสากล ฉบับเต็มที่ https://corporate.dow.com/en-us/science-and-sustainability/reporting/sustainability-report-2019/
สำหรับประเทศไทย นอกจากการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ยังได้หารือความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เพื่อริเริ่มโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ในการอนุรักษ์ป่าชายเลนซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับป่าไม้ประเภทอื่น และป้องกันขยะไม่ให้ไหลลงสู่ทะเลด้วยกลไกทางเศรษฐศาสตร์และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยในปีนี้จะเริ่มทำโครงการนำร่องที่ป่าชายเลนในเขตเทศบาลตำบลปากน้ำประแส จังหวัดระยอง เป็นแห่งแรก และจะขยายผลไปยังป่าชายเลนที่สำคัญของประเทศไทยต่อไปอีกด้วย
“Dow ดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนที่ปากน้ำประแสมานานกว่า 11 ปี และ ในปีนี้เราจะยกระดับโครงการให้ใหญ่และครบวงจรมากขึ้น เพื่อเป็นโครงการนำร่อง เตรียมการขยายไปยังป่าชายเลนที่สำคัญในจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมทั้งกับชุมชนและประชาชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแก้วิกฤตโลกร้อน ลดปัญหาขยะทะเลด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ของ Dow ทั่วโลก” นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว
Fri , 25 April 2025
Fri , 25 April 2025
Wed , 23 April 2025
Tue , 22 April 2025