กลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย (Dow)
ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการภาคเอกชน
และองค์กรต่าง ๆ ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรม “#PullingOurWeight เก็บ...เซฟ...โลก” เนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล
จังหวัดระยอง ประจำปี 2565
โดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 เพื่อหยุดขยะพลาสติกไม่ให้หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม
พร้อมสร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยอาสาสมัครของ Dow ได้รวมพลังกับจิตอาสากว่า 3,300 คน
เก็บขยะชายหาดกว่า 6,500 กิโลกรัมและนำขยะรีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) มุ่งสร้างจิตสำนึกแก้ปัญหาขยะในทะเลอย่างยั่งยืน
พนักงาน Dow ทั่วโลกได้เข้าร่วมกับองค์การอนุรักษ์ท้องทะเล (Ocean
Conservancy) ดำเนินกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล หรือ International
Coastal Cleanup ซึ่งเป็นกิจกรรมเก็บขยะชาดหาดพร้อมกันทั่วโลกทุกวันเสาร์สัปดาห์ที่
3 ของเดือนกันยายนต่อเนื่องเป็นปีที่ 37 และสำหรับประเทศไทยนับเป็นปีที่ 20 สำหรับปีนี้
Dow ได้ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์กรต่าง ๆ ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมเก็บขยะตลอดระยะทางกว่า
25 กิโลเมตร ณ บริเวณหาดน้ำริน-หาดพยูน-หาดพลา อำเภอบ้านฉาง
และหาดสุชาดา-หาดแสงจันทร์-หาดแหลมเจริญ-หาดแม่รำพึง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระยอง
มุ่งสู่เป้าหมายที่จะร่วมกับพนักงาน ลูกค้า ชุมชน และพันธมิตร
นำขยะพลาสติกทั่วโลกกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลให้ได้ 1 ล้านตันภายในปี
พ.ศ. 2573
นายฉัตรชัย
เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow มุ่งเสริมสร้างสังคมและชุมชนที่ยังยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการ
“หยุดขยะพลาสติก” ไม่ให้หลุดรอดไปสู่สิ่งแวดล้อม
พลาสติกเป็นวัสดุที่มีคุณค่าเกินกว่าที่จะทิ้งให้เป็นขยะ
เพราะเราสามารถนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างคุ้มค่า
พลาสติกจึงไม่ควรกลายเป็นขยะ
แต่ควรถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ซ้ำตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน
กิจกรรมในวันนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงการคืนธรรมชาติที่สวยงามชั่วคราวเท่านั้น
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่จิตอาสาแต่ละคนได้มาเห็น
ว่าขยะที่เราทิ้งมาลงเอยที่ชายหาดอย่างไร ได้ลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเอง
และเกิดเป็นความมุ่งมั่นที่จะกลับบ้านไปช่วยกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง
ซึ่งจะก่อให้เกิดการแก้ปัญหาขยะทะเลที่ยั่งยืนในอนาคต”
นอกจากเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ
ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเก็บขยะชายหาด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง Dow ยังได้สร้างจิตสำนึกในการป้องกันปัญหาเชิงรุกตั้งแต่ต้นทาง
โดยส่งเสริมการคัดแยกขยะในครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้ว
เพื่อลดการปนเปื้อนและสามารถนำกลับมารีไซเคิลหรือใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยจัดแคมเปญ “คัดแยก...แลก ‘ถุง’”
ให้ประชาชนนำพลาสติกชนิดโพลีเอทีลีน เช่น ถุงหูหิ้ว ถุงน้ำแข็ง ถุงข้าวสาร
ฟิล์มหุ้มแพ็คน้ำ ฯลฯ จำนวน 125 ใบมารับถุงดาวรักษ์โลกในบริเวณที่จัดงาน
ซึ่งถุงทั้งหมดเหล่านี้กว่า 8,000 ชิ้น
จะส่งให้กับกลุ่มเยาวชน “ดาวอาสา พาไปรักษ์” เพื่อนำไปต่อยอดโครงการ “Green Challenge BKW x Dow” ของโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา
เกิดเป็นรายได้ในการจำหน่ายพลาสติกใช้แล้วให้กับโรงงานรับรีไซเคิล
รวมถึงการนำไปแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ Dow ยังได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้
100%
เม็ดพลาสติกที่มีส่วนผสมของพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภคในสัดส่วน 40%
(Post-consumer recycled resin)
สามารถนำมาผลิตเป็นฟิล์มหดรัดสินค้าที่ยังคงคุณสมบัติเทียบเท่ากับฟิล์มที่ทำมาจากเม็ดพลาสติกใหม่โดยเป็นฟิล์มใสใช้แพคขวดเครื่องดื่ม
ชวดแชมพู โลชั่น ฯลฯ และเทคโนโลยีการนำพลาสติกใช้แล้วมาทำถนนพลาสติก
อิฐบล็อกปูพื้น ไม้พาเลทเทียม ฯลฯ
และร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านฉางและชุมชนในการจัดเวิร์คช้อปการทำอิฐบล็อกปูพื้นและกระถางต้นไม้จากขยะพลาสติก
และศิลปะเดคูพาจจากแก้วกาแฟใช้แล้ว เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เห็นแนวทางในการสร้างคุณค่าให้กับพลาสติกที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้
นายเรืองฤทธิ์
ประกอบธรรม นายอำเภอบ้านฉาง กล่าวว่า “ในฐานะชาวระยอง
ผมรู้สึกภูมิใจที่เห็นบริษัท องค์กร และ ประชาชนจิตอาสามาร่วมกันเก็บขยะชายหาด
คืนความสวยงามให้หาดที่สำคัญของเรา
ปัญหาขยะทะเลสามารถแก้ไขได้หากเราช่วยกันป้องกันตั้งแต่ต้นทาง
ทุกคนช่วยได้ด้วยการคัดแยกขยะรีไซเคิล ออกจากขยะเศษอาหารตั้งแต่ที่บ้าน
เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบสามารถจัดการขยะได้สะดวก
ส่วนภาคเอกชนก็ช่วยแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ทุกคนล้วนมีบทบาทหน้าที่สำคัญ
เพราะโลกใบนี้ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของเราทุกคน”
องค์กรที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมซึ่งร่วมกับ
Dow จัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล ในอำเภอบ้านฉางในปีนี้ได้แก่
กลุ่มบริษัทบริษัท โซลเวย์ บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด บริษัท เอ็น-เอส
สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด บริษัทฮีดากา โยโก เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
และกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ซึ่งแม้จะยังอยู่ในสถานการณ์โควิด 19
ที่ต้องมีมาตรการป้องกันต่าง ๆ
แต่การรักษาสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ยังสามารถทำควบคู่กันไปได้ โดยในปีนี้ได้มีการปรับรูปแบบกิจกรรม
ให้มีการเว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
และมีการคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเคร่งครัดเพื่อให้จิตอาสาทุกคนสามารถทำกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย