กลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับ สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของศาสตราจารย์
ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน
(DOW-CST AWARD) ประจำปี พ.ศ. 2562
ภายใต้โครงการห้องเรียนเคมีดาว ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
โดยมีครูและนักเรียนทั่วประเทศร่วมประชันไอเดียการจัดการขยะด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์
ชิงทุนการศึกษาและโล่เกียรติยศรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ณ
จามจุรี สแควร์ ชั้น G
นายสุพจน์ เกตุโตประการ ผู้อำนวยฝ่ายธุรกิจ
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow
เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืนด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน
และต้องการสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในปีนี้ โครงการฯ
จึงได้กำหนดธีมการประกวดภายใต้หัวข้อ “การจัดการขยะและของเสีย
(Waste Management)” โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนและครูที่ปรึกษานำเสนอไอเดียที่น่าสนใจ
สร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันจะสามารถนำแนวคิดจากโครงการเหล่านี้ไปต่อยอดเพื่อการแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืนต่อไป”
การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์
DOW-CST
AWARD เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว”
ในปีนี้ได้เปิดให้ครูและนักเรียนได้ประยุกต์ใช้เทคนิคปฏิบัติการทดลองเคมีแบบย่อส่วน
(Small-Scale Chemistry Laboratory) อย่างสร้างสรรค์เพื่อร่วมจัดการปัญหาขยะ
โดยมีทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทั้งสิ้น 20 ทีม
แบ่งเป็น ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 6 ทีม
และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 14 ทีม
ซึ่งผู้ที่ชนะเลิศรางวัลยอดเยี่ยมจะได้เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศจากศาสตราจารย์
ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ Pure and Applied Chemistry International
Conference (PACCON 2020) ที่จะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค
ฟอรั่ม เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 13-14
กุมภาพันธ์นี้ โดยมีรายนามผู้ชนะดังต่อไปนี้:
- 2019 DOW-CST AWARD ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
o รางวัลยอดเยี่ยม
ซึ่งได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ
ได้แก่ โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ.ปราจีนบุรี
ด้วยโครงงานการทดลองเคมีแบบย่อส่วนเรื่องการจัดการไมโครพลาสติก
o รางวัลรองชนะเลิศอันดับ
1 ได้แก่
โรงเรียนบุญฑริกพิทยาคาร จ.อุบลราชธานี
จากโครงงานการศึกษาผลของสารช่วยติดสีจากธรรมชาติต่อคุณภาพและเฉดสีของฝ้ายที่ย้อมจากกาบมะพร้าวแก่แทนการใช้สารเคมี
ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท
o รางวัลรองชนะเลิศอันดับ
2 ได้แก่
โรงเรียนดัดดรุณี จ.ฉะเชิงเทรา จากโครงงานการบำบัดน้ำเสียจากครัวเรือนโดยใช้พืชในท้องถิ่น
ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
- 2019 DOW-CST AWARD ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
o รางวัลยอดเยี่ยม
ซึ่งได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ
ได้แก่ โรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร
ด้วยโครงงานการทดลองเคมีแบบย่อส่วนเรื่องปฏิกิริยาเคมีและความสัมพันธ์ทางมวลของทองแดง
o รางวัลรองชนะเลิศอันดับ
1 ได้แก่
โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จ.ภูเก็ต จากโครงงานเซลล์กัลวานิกแบบย่อส่วน
ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท
o รางวัลรองชนะเลิศอันดับ
2 ได้แก่
โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี จากโครงงานชุดทดสอบโลหะด้วยสารสกัดพืช
ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
ศาสตราจารย์ ดร.สุภา หารหนองบัว
นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “โครงการฯ
เห็นถึงประโยชน์ของเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน
ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยให้วิชาวิทยาศาสตร์สามารถเข้าถึงได้ง่าย เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมส่งเสริมให้บุคลากรทางการศึกษาและเยาวชนสามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้
เครื่องมือ อุปกรณ์ และวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น นำมาพัฒนาเป็นสื่อในโครงงานวิทย์ฯ
ซึ่งสามารถปรับใช้กับบทเรียนในชั้นเรียนที่ช่วยเพิ่มสีสีนให้กับการเรียนวิทยาศาสตร์
พร้อม ๆ กับช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย
สนับสนุนการเรียนการสอนที่ทั้งครูและนักเรียนสามารถเป็นนักคิดและพัฒนาเสริมสร้างนวัตกรรมโดยเฉพาะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในยุคประเทศไทย 4.0”
ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการ
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าวิทยาศาสตร์สามารถแก้ปัญหาที่ท้าทายต่าง
ๆ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมโลกได้ การประกวดในปีนี้
จึงสนับสนุนให้ครูและเยาวชนได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาคิดค้นวิธีการจัดการขยะและของเสียด้วยเทคนิคและนวัตกรรมต่าง
ๆ อย่างสร้างสรรค์
สอดรับกับทิศทางการตื่นตัวของประเทศไทยในด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วม
เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ดีให้กลับคืนมาอีกครั้ง”
โครงการ "ห้องเรียนเคมีดาว" หรือ Dow Chemistry
Classroom ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556
เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนวิชาเคมีด้วยใช้เทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนที่มีความปลอดภัยสูง
ใช้ปริมาณสารเคมีน้อย ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดปริมาณของเสีย
และให้นักเรียนได้มีโอกาสลงมือทำการทดลองด้วยตนเอง
รวมทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาวิชาเคมีอื่น ๆ ประกอบด้วย
การอบรมเชิงปฏิบัติการการทดลองเคมีแบบย่อส่วนให้แก่ครูวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปใช้บูรณาการการเรียนการสอนตามหลักสูตร
รวมทั้งการพัฒนาครูวิทยาศาสตร์ต้นแบบดีเด่นให้เป็นเทรนเนอร์เพื่อเผยแพร่เทคนิคอันเป็นประโยชน์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
พร้อมการติดตามผลและประเมินกระบวนการสอนเพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคการเรียนการสอนร่วมกัน
ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ผ่านการทดลองทำด้วยตนเอง
เพื่อสร้างความรักในการศึกษาวิชาเคมีให้กับเยาวชนไทยที่จะขับเคลื่อนประเทศชาติและสังคมต่อไปในอนาคต
ตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมกว่า 7 ปี
มีคณาจารย์กว่า 2,000 คน จาก 762 โรงเรียนทั่วประเทศ
และมีนักเรียนกว่า 100,000 คน ที่ได้รับประโยชน์ นอกจากนี้
โครงการฯ
ยังได้รับความสนใจและมีการขยายผลองค์ความรู้ให้กับครูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการร่วมเข้ารับการถ่ายทอดเทคนิคการเรียนการสอนรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่องอันจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างบุคคลากรด้านวิทยาศาสตร์ในอนาคตต่อไป