กลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับจังหวัดระยอง และเทศบาลเมืองมาบตาพุด เปิดศูนย์เรียนรู้อีเอฟ
จังหวัดระยอง (Rayong EF Center) ณ
ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด ภายใต้โครงการ ดาว-อีเอฟ
พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก
ซึ่งถือเป็นศูนย์เรียนรู้เต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทยด้าน Executive
Functions (EF) ช่วยเสริมสร้างทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตและทำงานในศตวรรษที่
21 เพื่อสร้างพลเมืองคุณภาพและวางรากฐานการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทยอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
Dow เริ่มดำเนินโครงการฯ
ในปี พ.ศ. 2559 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะในการจัดการชีวิต
สามารถรับมือกับปัญหาและความเสี่ยงต่าง ๆ ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมุ่งเน้นการปรับใช้หลักการพัฒนาทักษะสมอง EF ในการเลี้ยงดูเด็กเริ่มตั้งแต่ปฐมวัยภายในครอบครัว
โรงเรียน และชุมชน ซึ่งจะช่วยสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและสร้างจังหวัดระยองให้เป็นเมืองต้นแบบแห่งความสุข
อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากรของชาติให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
นายเดชา
พาณิชยพิเชฐ ผู้อำนวยการโรงงานโรงงาน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow ให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรและส่งเสริมชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
อนาคตของประเทศจะพัฒนาไปในทิศทางใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของเยาวชนรุ่นใหม่
สมองคือศูนย์บัญชาการชีวิต เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะสมอง EF และร่วมกันช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของเยาวชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คิดเป็น ทำเป็น หล่อหลอมพฤติกรรมให้ดีอย่างรอบด้าน
และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
และพัฒนาคุณภาพเยาวชนไทยให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันบนเวทีโลก”
ศูนย์เรียนรู้อีเอฟ
จังหวัดระยอง หรือ Rayong
EF Center ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด
เป็นพื้นที่สาธารณะส่งเสริมการเรียนรู้ที่สำคัญของชาวระยอง ในการพัฒนาทักษะสมอง EF
ให้กับเด็กทุกช่วงวัยและพ่อแม่ผู้ปกครอง
ด้วยสื่อมัลติมีเดียและกิจกรรมแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ
ให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยทุกกิจกรรมในศูนย์เรียนรู้จะช่วยพัฒนาทักษะ EF
ของเด็กครบทั้ง 9 ด้าน อาทิ ‘โรงละครอีเอฟ’ ซึ่งฝึกให้เด็กปรับตัวไปตามบทบาทที่แตกต่างไปจากตัวเอง
และนำไปสู่ความเข้าใจคนอื่นและสามารถเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ดีขึ้น ‘ล้อเล่นแสงเงา’ ฝึกให้เด็กกล้าริเริ่ม
มีจินตนาการซึ่งเป็นพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ ‘ปีนป่ายไต่เชือก’ ฝึกให้เด็กรู้จักวางเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง ไม่วอกแวก
สามารถควบคุมอารมณ์ข่มความกลัว
และเกิดความภูมิใจในตัวเองเมื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้
ยังได้สอดแทรกเนื้อหาความรู้ท้องถิ่นของมาบตาพุดและจังหวัดระยองให้กับเด็กและผู้ปกครองได้เรียนรู้ในเวลาเดียวกัน
โดยจะเปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชนทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.00 น.
นายถวิล
โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า “ศูนย์เรียนรู้อีเอฟซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
แห่งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จและความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่แรกเริ่มให้กับคนรุ่นใหม่
ให้มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม อีกทั้งยังเป็นการขยายโอกาสให้ครู
ผู้ปกครอง ได้มีการฝึกฝนและติดตามพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กอย่างต่อเนื่อง
สร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน EF อย่างมีส่วนร่วม
ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกหลานชาวระยองของเราสามารถบริหารจัดการชีวิตได้อย่างมีเป้าหมาย”
“นอกเหนือจากการสนับสนุนของรัฐบาลในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่ยุคไทยแลนด์
4.0 แล้ว
การเตรียมความพร้อมทางด้านสังคมและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนในสังคมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างให้เด็กเป็น ‘คนเก่ง’
และ ‘คนดี’ ของสังคม
อีกทั้งช่วยหล่อหลอมให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออกในทางที่ถูก
รู้จักริเริ่มลงมือทำเมื่อเกิดไอเดียใหม่ ๆ
ไม่กลัวที่จะซักถามหรือตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว และกล้าที่จะค้นคว้าหาคำตอบ
เป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างวินัยเชิงบวกให้กับเยาวชนไทย” นายสุรศักดิ์
เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และประธานภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนโครงการฯ
กล่าวสรุป
ปัจจุบัน
โครงการ “ดาว อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” มีหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม 9 แห่ง สถานศึกษาเข้าร่วม 191
แห่ง สถานสาธารณสุข 119 แห่ง ทั้งนี้
ในปัจจุบันมีแกนนำวัคซีนชีวิตแล้วทั้งสิ้นกว่า 900 คน
ซึ่งได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนากิจกรรมส่งเสริมอีเอฟสู่ผู้ปกครองกว่า 10,000
คน
ซึ่งความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
โดยเฉพาะในอนาคตที่มีแนวโน้มการแข่งขันสูง ดังนั้นความมุ่งมั่นจดจ่อ
และรู้จักผลักดันตนเองไปสู่เป้าหมายชีวิต ด้วยการใช้สติคิดไตร่ตรอง
จะทำให้เยาวชนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
และสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างมีความสุข