กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เดินหน้าโครงการต้านโลกร้อนและส่งเสริมวงจรรีไรเซิลอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้รับประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก หรือ Low
Emission Support Scheme (LESS) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
(องค์การมหาชน) เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศของการจัดการขยะและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโลกร้อน
ก้าวสู่องค์กรที่จะลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
และสร้างมูลค่าพลาสติกใช้แล้วให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้
3 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573
โครงการต้านโลกร้อนและส่งเสริมวงจรรีไรเซิลที่ได้รับการรับรองจาก
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้ ได้แก่ 1. โครงการศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร
(บ้านฉาง MRF) 2. โครงการปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารภายในบริษัทจากยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นยานพาหนะไฟฟ้า
3. โครงการ “เก็บ...เซฟ...โลก”
ในป่าชายเลนและวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล และ 4. โครงการจัดการขยะรีไซเคิลภายในบริษัทฯ
รวมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 140
ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
สำหรับศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร
(บ้านฉาง MRF)
เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการลดปริมาณขยะพลาสติกและวัสดุรีไซเคิลในชุมชนบ้านฉาง
จังหวัดระยอง
โดยเป็นต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทยสำหรับการคัดแยกและยกระดับคุณภาพวัสดุรีไซเคิลเหลือใช้ในชุมชนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีฝีมือคนไทย
สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการขยะและวัสดุรีไซเคิล
โดยมีการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่
ตั้งเป้าแก้ปัญหาพลาสติกใช้แล้วและวัสดุรีไซเคิลในหลุมฝังกลบเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในแต่ละปีกว่า
1,000 ตัน
และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2,400
ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
นอกจากนี้ Dow ยังได้ปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารภายในบริษัทฯ
จากยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง
เป็นยานพาหนะไฟฟ้าด้วยจำนวนที่นั่งเท่าเดิมและรับส่งพนักงานได้ครบถ้วนในระยะทางเท่ากัน
โดยตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 – พฤษภาคม 2567 ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าพลังงานเชื้อเพลิงได้กว่า 102,000 บาทแล้ว ยังลดมลพิษทางอากาศ เสียงรบกวน ก๊าซเรือนกระจกได้อีกกว่า 9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และยังคงดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นายเอกสิทธิ์ ลัคนานิธิพันธุ์
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจร่วมทุน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า
“การได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเรา
ในการนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ทั้งในและนอกองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
เราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนไม่เพียงแต่สร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ
แต่ยังส่งผลดีต่อชุมชนและประเทศชาติ
การลดปริมาณขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับชุมชน
นอกจากนี้ การสร้างงานและรายได้ให้กับคนในพื้นที่ยังช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป”
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
ยังได้รับการรางวัลต่าง ๆ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
อย่างต่อเนื่อง อาทิ การรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint
of Products) ฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction) คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (Carbon Footprint for Organization) รวมถึงการแต่งตั้งบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิของบริษัทฯ
ให้เป็นที่ปรึกษาและคณะกรรมการที่ได้รับการรับรองจาก อบก.
ในการขับเคลื่อนพันธกิจด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ภายในหรือก่อนปี ค.ศ.
2065 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ