โครงการความร่วมมือภาครัฐ
ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน (PPP
Plastics) ภายใต้การขับเคลื่อนของท้องถิ่นจังหวัดระยอง
และกลุ่มผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมนำโดยกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เอสซีจี อินโดรามา HMC Polymers และ IRPC
พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โรงเรียนต้นแบบตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน” ขยายผลองค์ความรู้ด้านการคัดแยกพลากติกเหลือใช้สู่โรงเรียนในจังหวัดระยอง
เพื่อพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนในสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
หวังสร้างรายได้ให้ชุมชนและลดปัญหาพลาสติกตกค้างในสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีขยะพลาสติกราว
2 ล้านตัน แต่ในจำนวนนี้ สามารถนำมารีไซเคิลได้เพียง 0.5 ล้านตันเท่านั้น
ที่เหลืออีก 1.5 ล้านตัน ยังใช้วิธีฝังกลบและบางส่วนถูกทิ้งปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม
เมื่อเกิดความร่วมมือภายใต้ภาคี PPP Plastics เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืนขึ้น
จึงได้มีการตั้งเป้าหมายจะลดขยะทางทะเลลง 50% ภายในปี พ.ศ. 2570 โดยจังหวัดระยองถือเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของโครงการฯ และหนึ่งในจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
หรือ อีอีซี ซึ่งกำลังขยายตัวจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภาคอุตสาหกรรม
การท่องเที่ยว และการเคลื่อนย้ายแรงงาน คาดว่าอาจมีปริมาณขยะมูลฝอยสูงถึง 20
ล้านตันในอีก 20 ปีข้างหน้า
นายสมชาย รุ่งเรือง
ท้องถิ่นจังหวัดระยอง กล่าวว่า “ตลอดกว่า 2
ปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ วางแผน ดำเนินการ
และติดตามประเมินผลร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
โดยขับเคลื่อนงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสร้างระบบการจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รวมทั้งส่งเสริมชุมชนต้นแบบในการคัดแยกขยะ การรณรงค์ปรับพฤติกรรมการใช้พลาสติกให้เกิดการคัดแยกอย่างถูกต้องตามประเภทก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ
การสนับสนุนให้สถานศึกษามีองค์ความรู้จึงถือเป็นการวางรากฐาน สร้างความตระหนัก และส่งต่อความรู้สู่เยาวชนลูกหลานของเรา
ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน”
ตลอดทั้งวันของการอบรมเชิงปฏิบัติการ
“โรงเรียนต้นแบบตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน” ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมโกลเด้นซิตี้ ระยอง โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายลดพลาสติกไทยแลนด์
(Less Plastic Thailand) คณาจารย์กว่า 70 คนจากโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรวมทั้งสิ้น
30 แห่ง ได้ร่วมรับฟังแนวคิดการจัดการพลาสติกตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ฝึกคัดแยกเพื่อสร้างมูลค่าจากพลาสติกเหลือใช้
รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางนำองค์ความรู้ไปขยายผลแก่เยาวชนเพื่อสร้างโรงเรียนปลอดขยะให้เกิดขึ้นในชุมชน
และพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนในสถานศึกษาให้เป็นต้นแบบในการนำประยุกต์ใช้กับพื้นที่อื่น
ๆ ต่อไป
“พลาสติกมีประโยชน์และมีค่าเกินกว่าจะถูกทิ้งอยู่ในสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากพลาสติกเป็นทรัพยากรที่ใช้ได้ไม่รู้จบ หากสามารถคัดแยกจากขยะอื่น ๆ
ตั้งแต่ต้นทางได้อย่างถูกต้องเพื่อลดการปนเปื้อน
ก็จะสามารถช่วยลดจำนวนขยะที่เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญชุมชนก็จะขายพลาสติกแต่ละชนิดได้ในราคาที่สูงขึ้นเพื่อวนนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและใช้ประโยชน์ตามแต่ละประเภทต่อไป
จากการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 2 ปี
พันธมิตรในโครงการสามารถนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์เพื่อลดปริมาณที่หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมได้แล้วมากกว่า
300 ตัน” นางภรณี กองอมรภิญโญ
ผู้บริหารกลุ่ม PPP Plastics กล่าว
สำหรับแนวทางการจัดการพลาสติกอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน
เป็นแนวทางที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นวิธีแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่ยั่งยืน
เนื่องจากเป็นระบบจากจัดการของเสียจากการผลิตและการบริโภคด้วยการนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วเข้าสู่ระบบการผลิตใหม่
(re-material)
หรือนำมาใช้ซ้ำ (re-use) แต่การที่จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนประสบผลสำเร็จ
จะต้องสร้างความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องในการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางให้แก่ผู้บริโภค
รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในการจัดการขยะพลาสติก
“การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเรื่องการคิดก่อนใช้
แยกก่อนทิ้ง ช่วยให้การนำขยะไปใช้ประโยชน์ได้สะดวกและง่ายขึ้น เพิ่มอัตราการรีไซเคิลขยะให้สูงขึ้น
และแก้ไขปัญหาขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม
ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน หากเราทุกคนช่วยกันจะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม บนฐานของการที่ประชาชนมีความรู้และตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการเป็นผู้ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและคุ้มค่าตามโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน
ซึ่งเหล่านี้สามารถที่จะแบ่งปันและขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ในอนาคตต่อไป” ดร.วิจารย์
สิมาฉายา ประธานกลุ่ม PPP Plastics กล่าวสรุป
โครงการความร่วมมือภาครัฐ
ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน (PPP
Plastics) พื้นที่นำร่องจังหวัดระยอง (Rayong Model) เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายจะทำให้ขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ได้หมดโดยไม่มีขยะพลาสติกไปหลุมฝังกลบเลยภายในปี
พ.ศ. 2565 ปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 18 แห่งเข้าร่วมและมีการจัดทำฐานข้อมูลของการจัดการขยะแต่ละประเภทอย่างเป็นระบบ
โดยส่งเสริมให้ประชาชนกว่า 5,000 คน มีส่วนร่วมในการคัดแยกและบริหารจัดการขยะ
โดยเฉพาะพลาสติกเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ และขยายเครือข่ายเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจสู่ภาคชุมชน
พร้อมทั้งรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อไป