เนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลปี 2564 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(กนอ.) ได้ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และ
ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง รวมทั้งองค์กรภาครัฐในท้องถิ่น
จัดกิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก”
ท้าชวนคนไทยเก็บขยะที่ตกค้างจากแหล่งน้ำใกล้บ้าน
และคัดแยกขยะในครัวเรือนเพื่อป้องกันปัญหาขยะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมแบบเชิงรุก
โดยอาสาสมัครทั่วประเทศกว่า 1,500 คน ร่วมกันเก็บและคัดแยกขยะได้น้ำหนักกว่า
1,960 กิโลกรัม เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หวังแก้ปัญหาขยะในทะเลอย่างยั่งยืน
กิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล จังหวัดระยอง ประจำปี 2564 (International Coastal Cleanup) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่
19 ในแบบ New Normal พร้อมเชิญชวนภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมรักษ์โลกภายใต้แคมเปญ
“#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก”
ในรูปแบบอีเว้นท์ออนไลน์หรือ Virtual Event ครั้งแรกด้วยการให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเก็บขยะจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
หรือคัดแยกขยะในครัวเรือนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19
เนื่องจากผู้คนใช้เวลาโดยส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน โดยแยกขยะตามประเภท อาทิ พลาสติก
แก้ว กระดาษ โลหะ ออกจากขยะเศษอาหารและขยะปนเปื้อนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดขยะที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม
และลดปริมาณขยะที่จะต้องส่งไปกำจัด โดยขยะรีไซเคิลที่รวบรวมได้ยังสามารถขายต่อให้ร้านรับซื้อของรีไซเคิลใกล้บ้าน
ซึ่งกิจกรรมได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564
“แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การดูแลสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการเช่นกัน
กิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก”
ในครั้งนี้เป็นการสร้างความต่อเนื่องให้กับงานวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลซึ่งกลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย ได้เป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์มาโดยตลอด
และยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากกิจกรรมออนไลน์ ‘Dow ท้า
หยุดทิ้งพลาสติก’ ที่เราได้จัดไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งได้รับความสนใจจากจิตอาสาจำนวนมาก
การที่ให้ประชาชนร่วมกันเก็บขยะและแยกขยะไม่ใช่เพียงมุ่งหวังที่จะลดปริมาณขยะเพียงในช่วงเวลาของกิจกรรม
แต่ยังทำให้ได้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้วที่ยังมีคุณค่าเกินกว่าที่จะทิ้งให้กลายเป็นขยะ
โดยหวังว่าประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะช่วยกันแยกขยะในครัวเรือนต่อไปเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอันจะเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนของ
Dow ในการลดขยะพลาสติกและส่งเสริมวงจรรีไซเคิล” นายฉัตรชัย
เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว
ภารกิจการเก็บขยะชายหาดพร้อมกันทั่วโลกเป็นกิจกรรมที่องค์การอนุรักษ์ท้องทะเล
(Ocean
Conservancy ) ได้ริเริ่มขึ้นในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลเมื่อ 36
ปีก่อน โดยปีนี้เป็นปีที่ 19 ของการจัดกิจกรรมในประเทศไทย
และเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในสถานการณ์โควิดจึงได้เปลี่ยนรูปแบบจากการเก็บขยะพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่
เป็นให้จิตอาสาเก็บขยะจากแหล่งน้ำใกล้บ้านหรือแยกขยะจากในครัวเรือน
นับจำนวนแล้วถ่ายภาพและส่งจำนวนขยะมารวมกันกับจิตอาสาจากทั่วประเทศที่มีใจห่วงใยสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า
“กิจกรรมดังกล่าวเป็นการบูรณาการขององค์กรภาครัฐและเอกชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มเพื่อหยุดขยะพลาสติกไม่ให้หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม
ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล
นับเป็นเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศให้มีความสมบรูณ์อีกครั้ง
ในฐานะหน่วยงานดูแลด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีเป้าหมายการจัดการและแก้ไขปัญหาขยะทะเลมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการเก็บขยะในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล การวางทุ่นกักขยะลอยน้ำ การติดตั้งบูมกักขยะบริเวณปากแม่น้ำทั่วประเทศ
การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลและในแนวปะการัง พร้อมสนับสนุนการจัดการขยะที่ต้นทางในครัวเรือน
ชุมชน สถานประกอบการ รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลต่าง ๆ
พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น
อาสาสมัครและนักท่องเที่ยวในการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีการรณรงค์เก็บขยะชายฝั่งในทุก
ๆ ปี และนำขยะไปสร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular
Economy) อย่างเหมาะสม”
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(ผวก.) กล่าวว่า “ปัจจุบันนโยบายของไทยมุ่งเน้นการยกระดับสิ่งแวดล้อมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่
BCG (Bio, Circular, Green Economy) กนอ.จึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการต่าง
ๆ ที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้มีการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด
โดย ผวก. มอบหมายให้นายฉกาจ พัฒนศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดระยองดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง
โดยดึงพลังของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการยกระดับการดูแลระบบนิเวศชายฝั่งร่วมกัน
เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรให้กับประเทศไทยอย่างมีประสิทธิผลต่อไป”
จากความสำเร็จในการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมภายใต้แคมเปญ
“#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” สามารถรวบรวมขยะประเภทต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 196,951 ชิ้น แยกเป็นพลาสติก 104,677 ชิ้น แก้ว 3,567 ชิ้น กระดาษ 32,740 ชิ้น เหล็กและอะลูมิเนียม 1,703 ชิ้น
และขยะประเภทอื่น ๆ อีก 54,264 ชิ้น แสดงให้เห็นว่าการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางจะสามารถช่วยลดปริมาณขยะได้จริง
โดยเฉพาะขยะรีไซเคิลที่มีมูลค่า
อีกทั้งนอกเหนือจากช่วยป้องกันขยะจากครัวเรือนหลุดรอดไปสู่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติแล้ว
ยังนำไปสู่การสร้างรายได้ทั้งในครัวเรือนและชุมชน หากได้รับความร่วมมือจากประชาชนในแยกขยะอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถแก้ไขปัญหาขยะทะเลได้อย่างยั่งยืน